หลายคนที่วางแผนกำลังจะมีบ้านไม่ว่าจะบ้านใหม่ หรือบ้านมือสอง ต่างก็มุ่งประเด็นเรื่องการหาบ้าน สนใจแต่เรื่อง ทำเล , เรื่องราคา ,เรื่องดอกเบี้ยธนาคาร เงินดาวน์ และอื่นๆ หลายคนถูกปฎิเสธการยื่นกู้ เพียงเพราะเหตุผลเล็กเล็กน้อยน้อย ที่ถูกมองข้ามไป
บ้านเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่ามาก ดังนั้นก่อนซื้อก็ต้องเตรียมตัวเป็นอย่างดี ซึ่งคนส่วนใหญ่ มักคิดถึงแต่ประเด็นหลักหลัก เช่น เรื่องราคา ทำเล ดอกเบี้ย เป็นต้น จากประสบการณ์การขายบ้านมานับสิบปี แนะนำว่า ยังมีประเด็นสำคัญ ที่ไม่ควรมองข้าม ดังต่อไปนี้
1. ไม่มีเงินเก็บเลย
ประเด็นนี้ แนะนำว่าลูกค้าควรมีเงินเก็บออมไว้บ้าง เนื่องจากบ้่านเป็นทรัพย์สินที่ต้องผ่อนระยะยาว ในส่วนของเงินเก็บ เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงเรื่องวินัยในการเก็บออมเงินเอาไว้ในยามฉุกเฉิน รวมทั้งในการยื่นกู้บ้านนั้น จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มเติม อาทิเช่น ค่าภาษี ค่ากร ค่าธรรมเนียมโอน เป็นต้น หากว่าลูกค้าไม่มีเงินเก็บเลย อาจทำให้แบงก์มองว่าแบงก์มีความเสี่ยงที่จะให้กู้กับคนที่ไม่มีวินัยเรื่องเงินเลย
2. ย้ายงานบ่อย
เกณฑ์ในการยื่นสินเชื่อของแบงก์พาณิชย์ส่วนใหญ่คือต้องมีอายุงาน รวมกันเกิน 2 ปี ขึ้นไป และที่ทำงานปัจจุบันก็ต้องผ่านช่วงทดลองงานเรียบร้อยแล้ว ทำให้มีลูกค้าหลายท่านเข้าใจผิด จากประวัติการทำงาน บางคนย้ายงานทุก6เดือน โดยในข้อนี้หากมีเหตุผลที่ดีรวมทั้งสายวิชาชีพ ที่ต่อเนื่องเช่น เภสัช หมอ หรือพยาบาล แบบนี้ก็ยังเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่หากย้ายงานบ่อยโดยเปลี่ยนย้ายสายงานไปเลย เช่น เริ่มงานบริษัท a ตำแหน่งฝ่ายขาย 5 เดือน ย้ายไปอยู่บริษัท B ตำแหน่งฝ่ายผลิต ได้ 7 เดือน
3. ไม่ใช่พนักงานประจำ
บางคนเป็นพนักงานรายวัน พนักงานสัญญาจ้างรายวัน ไม่ใช่พนักงานประจำเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ เนื่องจากสถาบันการเงินจะให้เปอร์เซ็นต์ในส่วนนี้ค่อนข้างเยอะ เพราะนั่นหมายความว่าหากวันไหนไม่ได้ทำงานก็จะไม่มีรายได้นั่นเอง และหากไม่ได้ทำงานนานเป็นเดือน นั่นก็หมายความเสี่ยงที่จะไม่มีรายได้มาผ่อนบ้าน
4. ค้ำประกันสินเชื่อ
เวลาที่เพื่อนฝูง ญาติสนิท มิตรสหาย จะซื้อรถยนต์,มอเตอร์ไซค์ ก็มักจะต้องการคนค้ำประกัน และหากว่าได้เคยเซ็นต์ค้ำประกันให้ใครก็ตาม สิ่งที่ตามมาก็คือหากว่าเพื่อนหรือญาติคนนั้นไม่ผ่อนต่อ คนที่ต้องรับผิดชอบต่อก็คือคนที่ค้ำนั่นเอง ส่วนนี้ถือเป็นภาระของคนค้ำ
5. เหลือเงินในบัญชีหลักสิบบาท
ตามที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าบ้านเป็นทรัพย์สินที่ให้ผ่อนระยะยาวนานหลายสิบปี ดังนั้นสถาบันการเงินจะพิจารณาเรื่องวินัยทางการเงินของผู้ยื่นกู้ด้วย หากพฤติกรรมการใช้เงินดูเสี่ยง ไม่มั่นคง ในส่วนนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ควรพึงระวังเช่นกัน ยกเว้นว่ามีการย้ายเงินไปเก็บไว้ที่บัญชีเงินออม
6.อาชีพอิสระ ไม่ทำบัญชีรายรับรายจ่าย
ตามที่ทราบกันอยู่แล้ว อาชีพอิสระกู้ยาก แต่ก็พอที่จะมีความเป็นไปได้อยู่บ้าง ลูกค้าบางรายประกอบอาชีพอิสระ เช่นขายตรง มีการเสียภาษีทุกปี รายได้มาจากยอดขาย เป้นตัวแทนขายมานานนับสิบปี มีสเตทเม้นท์ มีหน้าร้าน แต่ไม่มีบัญชีรายรับรายจ่าย ที่ชัดเจนประกอบทำให้คลุมเครือและยากแก่การคำนวนรายได้
7.ผ่อนล่าช้า
วินัยในการผ่อนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การผ่อนชำระล่าช้า ไม่ตรงต่อเวลา หากเกิดขึ้นซ้ำซ้ำหลายครั้ง แบงก์ก็มองว่า หากต้องผ่อนบ้าน ซึ่งเป้นเวลาถึงสามสิบปี คงเป็นเรือ่งยากที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนั้น อาจจะไม่เหมาะที่จะอนุมัติสินเชื่อบ้าน
8.ไม่เคยมีบัตรเครดิตเลย
ในการผ่อนบ้านระยะยาวนานถึง 30 ปีนั้น จำเป็นต้องมีวินัยและการวางแผนทางการเงินเป็นอย่างดี ดังนั้นส่วนหนึ่งที่แบงก์จะดูพฤติกรรมย้อนหลังได้ดี ก็คือดูจากพฤติกรรมที่ผ่านมา ซึ่งหากว่าไม่เคยมีบัตรเครดิต หรือสินเชื่อเงินผ่อนใดใดเลย ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาพฤติกรรมการเป็นหนี้ได้
8 ประเด็นตามที่กล่าวมา อาจเป็นเพียงเหตุผลเล็กๆ เท่านั้น ที่นำมาประกอบการพิจารณาเรื่องสินเชื่อ อาจะไม่ใช่ประเด็นหลักทั้งหมด ที่จะนำมาพิจารณาเพื่ออนุมัติ บางครั้งเหตุผลเล็กเล็กก็นำมาประกอบเป็นข้อใหญ่ใหญ่ได้ ดังนั้น ทีมงานบ้านบางกอกขอร่วมเป็นส่วนนึง เพื่อความฝันในการมีบ้านของทุกคน อยากให้ทุกคนได้มีบ้าน สำเร็จตามที่ตั้งใจเอาไว้
หากจะเลือกซื้อบ้านมือสอง ควรเลือกซื้อบ้านจากบริษัทขายบ้านที่ไว้ใจได้ มีประสบการณ์ในการหาบ้านให้คุณได้ง่ายๆ ตอบโจทย์ความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นทาวน์เฮ้าส์มือสอง บ้านเดี่ยวมือสอง บ้านมือสองในกรุงเทพฯ บ้านมือสองนนทบุรี ปริมณฑล บางกอกแอสเซท สามารถคัดเลือกบ้านให้เหมาะสมกับงบประมาณ และทำเลที่คุณต้องการได้ ด้วยประสบการณ์กว่า 11 ปี www.bangkokassets.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น